ขายต่างประเทศกรณีค่า freight insurance

รับทำบัญชี.COM | คิดค่า freight ในใบขนราคา fob ในใบขนขาออก?

Click to rate this post!
[Total: 75 Average: 5]

ขายต่างประเทศกรณีค่า freight insurance

ขายต่างประเทศกรณีค่า freight insurance

ขายต่างประเทศกรณีค่า freight&insurance ผู้ซื้อเป็นคนออก ต้องบันทึกบัญชีอย่างไร

ต้องบันทึกรวมเป็นต้นทุนของสินค้าด้วย

การขายสินค้าต่างประเทศและการจัดส่งสินค้าด้วยค่าเสียหาย (Freight insurance) เป็นกระบวนการที่มักใช้ในการประกอบการส่งสินค้าไปยังปลายทางต่างประเทศเพื่อปกป้องสินค้าและรายได้ของคุณในกรณีเสียหายหรือสูญหายระหว่างการขนส่ง นี่คือขั้นตอนพื้นฐานของกระบวนการการขายต่างประเทศโดยมีค่า Freight insurance

  1. เลือกประเภทของ Freight insurance คุณควรเลือกประเภทของความคุ้มครองค่า Freight insurance ที่เหมาะกับความเสี่ยงและค่าสินค้าที่คุณขาย มีหลายประเภทของความคุ้มครองเช่นความคุ้มครองทุนสินค้า (Cargo Insurance) และความคุ้มครองการขนส่งสินค้า (Transportation Insurance) ซึ่งครอบคลุมความเสี่ยงต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของกรมธรรม์

  2. ติดต่อบริษัทประกัน คุณควรติดต่อบริษัทประกันที่เชี่ยวชาญด้านค่า Freight insurance เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและข้อกำหนดการรับประกัน คุณจะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่คุณจะส่งออก เช่น ค่าสินค้า, ชนิดของสินค้า, สถานที่ต้นทางและปลายทาง และความเสี่ยงที่คุณต้องการปกป้อง

  3. ขอใบเสนอราคา ให้บริษัทประกันระบุราคาที่คุณจะต้องจ่ายสำหรับค่า Freight insurance โดยมักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสินค้า และระยะทางการขนส่ง คุณควรตรวจสอบค่าเบี้ยประกันและเงื่อนไขการคุ้มครองอย่างรอบคอบ

  4. เริ่มการคุ้มครอง เมื่อคุณได้ชำระค่าเบี้ยประกัน บริษัทประกันจะเริ่มคุ้มครองค่า Freight insurance ของคุณตั้งแต่เริ่มการขนส่งสินค้า โดยคุณจะได้รับเอกสารหรือกรมธรรม์ที่ระบุรายละเอียดของความคุ้มครอง

  5. รับประกันค่าสินค้า ในกรณีเสียหายหรือสูญหายระหว่างการขนส่งสินค้า คุณควรรายงานข้อเสียหายหรือสูญหายให้กับบริษัทประกันโดยทันทีและปฏิบัติตามข้อกำหนดของกรมธรรม์เพื่อขอค่าสินค้าคืน

  6. สรุปกระบวนการ กระบวนการการขายต่างประเทศด้วยค่า Freight insurance นั้นเป็นกระบวนการคุ้มครองค่าสินค้าของคุณในกรณีเสียหายหรือสูญหายระหว่างการขนส่ง ค่าเบี้ยประกันที่คุณจ่ายขึ้นอยู่กับมูลค่าสินค้าและความเสี่ยงในการขนส่ง คุณควรปรึกษากับบริษัทประกันเพื่อให้เข้าใจเงื่อนไขและการคุ้มครองที่คุณจะได้รับในกรณีเสียหายหรือสูญหายของสินค้า